สวัสดีค่ะ .. ฉบับก่อน ครูแอร์ได้เสนอบทความที่เกี่ยวกับโรคเสี่ยง!ของเด็กในยุคเทคโนโลยีไปแล้ว แต่ยังไม่จบฉบับนี้เป็นตอนจบแล้วค่ะ ในฉบับนี้เป็นช่วงต่อเกี่ยวกับโรคเสี่ยงต่าง ๆ น่ากลัวจังเลยค่ะ ถ้าไม่อยากให้ลูกของเราเป็น คุณพ่อ คุณแม่ควรให้ลูกห่างไกลจาก โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และ smartphone เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดที่สุดเลยค่ะ ควรส่งเสริมให้ลูกๆ ได้ทำกิจกรรมที่หลากหลายก็จะช่วยให้ สมองลูกรักได้มีการเรียนรู้อย่างสมดุล และป้องกันผลเสียกับสุขภาพเด็ก ๆด้วยค่ะ
โรคเกี่ยวกับดวงตา
การจ้องหน้าจอโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เป็นเวลานานเกินกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน จะทำให้ตาขาดน้ำหล่อเลี้ยงเกิดอาการระคายเคืองได้ และอาการได้ตามมา คือ ตาพร่าและมองไม่เห็นชั่วคราว ระบบประสาท การปรับแสงของเลนส์ตากล้ามเนื้อตาเกร็ง สายตาสั้น เพราะกล้ามเนื้อตาจะบีบรัดเลนส์ตาจนล้า ถ้าระดับที่วางความสว่างไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อระบบของการกลอกตา ระบบกล้ามเนื้อและประสาท ซึ่งจะเกิดหลังจากใช้สายตานานผิดปกติ ทำให้เกิดอาการดวงตาล้า ดวงตาตึงเครียด ตาช้ำ ตาแดง แสบ
สำหรับเด็กเล็กรังสีที่มาจากจอโทรทัศน์ มีผลเสียต่อสายตา เพราะจอรับภาพทางประสาทตาของเด็กเล็กยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ นอกจากนี้สายตาของเด็กก่อนขวบปีจะเห็นภาพและสีต่าง ๆ ได้อย่างลางเลือน และเหมือนคนสายตาสั้น
ผลกระทบในระยะยาว สมาธิสั้น
เด็กในวัยแรกเกิด ถึง 6 ปี เป็นช่วงที่สำคัญที่สุดสำหรับพัฒนาการของเด็ก ซึ่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุด คือ การกระตุ้นโดยพ่อแม่เป็นผู้สอน ดังนั้นการที่พ่อแม่ปล่อยให้ลูกดูโทรทัศน์หรือเล่นเกมคอมพิวเตอร์นาน ๆ จะทำให้เด็กไม่มีพัฒนาการสมวัย และมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคสมาธิสั้น เด็กมีสมาธิ และความจดจ่อแย่ลง จนอาจทำให้เกิดโรคความจดจ่อเสื่อมหรือสมาธิสั้น
โรคอ้วนและคอเลสเตอรอลในเลือดสูง
การดูทีวีมาก ๆ สัมพันธ์กับโรคอ้วนและคอเลสเตอรอลในเลือดสูง เนื่องจากการนั่งอยู่กับที่นาน ๆ การกินของขบเคี้ยวระหว่างดูทีวี และโรคอ้วนในเด็กจะมีแนวโน้มทำให้เป็นผู้ใหญ่อ้วนหรือเกิดโรคหลายโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ มะเร็งในลำไส้ มะเร็งเต้านม ปวดหลัง ตามมาอีก
ขอขอบคุณข้อมูลจาก MC แม่และเด็กVol.8 No.89 พฤษภาคม 2555
Leave us a Reply